สมัยนี้ไม่ว่าเราจะขายสินค้าอะไร ก็ต้องหนีไม่พ้นเจอคู่แข่งจำนวนมากในโลกออนไลน์ ในทุกโซเชียลมีเดีย ที่กำลังขายสินค้าที่มีความคล้ายคลึงกัน ถ่ายรูปมาลักษณะคล้าย ๆ กัน ใช้อินฟลูสายเดียวกัน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลาย ๆ คนคงจะกำลังประสบปัญหาไม่รู้จะต้อง เขียนแคปชั่น ยังไงให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้า เสริมสร้างจุดเด่น บอกเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจ พร้อมปิดการขายได้ทันที วันนี้นินจาแวนได้นำเทคนิคการเขียนแคปชั่น เกริ่นนำสำหรับ Product Description เพื่อให้ลูกค้าพร้อมกดสั่งซื้อทันทีที่อ่านจบ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
5 เทคนิคการ เขียนแคปชั่น ขายสินค้า อ่านจบปุ้ป ลูกค้ากดสั่งซื้อทันที
1. ใช้ปัญหาสร้างจุดเด่น ผ่านหลักการเขียน Before- After- Bridge
หลักการเขียนนี้เป็นหลักที่เราเห็นการได้บ่อย ๆ ตามประโยคเปิดโฆษณาหรือบล็อกต่าง ๆ ด้วยเพราะเป็นหลักการเขียนที่ง่าย สั้น กระชับ และตรงประเด็น โดยแบ่งเนื้อความออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- Before: ปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- After: ชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
- Bridge: ผลิตภัณฑ์ของเรา ที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น
โดยเราจะเห็นโครงสร้างนี้ได้บ่อย ๆ เช่น
“คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้ไหม?… (Before)… จะดีกว่าไหม ถ้าคุณสามารถ… (After) … เพียงแค่คุณใช้… (Bridge)…”
พอเห็นรูปประโยคแบบนี้แล้ว คุ้นเลยใช่ไหมล่ะ ลองเอาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ของเราไปใส่ในช่องว่างแต่ละช่องดูแค่นี้ก็จะได้แคปชั่นขายสินค้าปัง ๆ แล้ว แต่ถ้าไม่อยากให้ดูขายของมากเกินไป ก็ลองปรับภาษาให้เป็นภาษาปัจจุบันในโลกออนไลน์มากขึ้นได้อีกด้วย
2. เน้น เขียนแคปชั่น ขยี้ไปที่ปัญหาผ่านโครงสร้าง Problem – Agitate – Solution
เช่นเคย แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- Problem: ยกปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
- Agitate: ขยี้ให้ปัญหาดูหนักหนา ต้องได้รับการแก้ไข ไม่อย่างนั้นชีวิตจะลำบาก
- Solve: นำเสนอทางออกด้วยผลิตภัณฑ์ของเรา
วิธีนี้จะเหมาะกับสินค้าที่สามารถช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วน สถานการณ์ที่วุ่นวาย ไม่น่าอภิรมณ์ ทำให้สินค้าของเราดูเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของลูกค้าขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น
“ล้างห้องน้ำทีไรปวดหัวทุกที โดยเฉพาะคราบกระจกห้องน้ำ ก๊อกน้ำ ขัดยังไงก็ไม่ออก (Problem) ใช้มาแล้วทุกยี่ห้อ ขัดจนเหนื่อยจนท้อ ล้างแต่ละทีชีวิตสิ้นหวังมาก (Agitate) จนมาเจอ … (Solve)… นี่แหละ สบายเลย เช็ดทีเดียวคราบออกหมด กระจกใสเหมือนตอนย้ายเข้ามาใหม่ ๆ ปลื้มมาก”
3. สั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความด้วยหลักการ 4U
แคปชั่นขายสินค้าแบบนี้ เน้นความสั้น ความกระชับ เหมาะกับการเขียนลงในแพลตฟอร์มที่มีการจำกัดข้อความอย่างเช่นบนทวิตเตอร์ โดยให้เน้นไปที่ 4 แกนเป็นหลัก ได้แก่
- Useful: สินค้านี้มีประโยชน์อย่างไร
- Urgent: ต้องรีบซื้อ ช้าหมด อดของดี
- Unique: สินค้านี้พิเศษอย่างไร
- Ultra-specific: ชัดเจน ตรงประเด็น เข้าใจง่าย
เช่น “ด่วน! แพคเกจลดหน้าท้อง สลายไขมัน โปร 6.6 ลด 50% วันนี้เท่านั้น! พร้อมโค้ดลดเพิ่ม จองเลย เทคโนโลยีนำเข้าจากอเมริกา มั่นใจ ได้มาตรฐาน”
4. โน้มน้าวให้คนซื้อผ่าน AIDA
AIDA หมายถึง Attention – Interest – Desire – Action ซึ่งก็คือการดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มาอ่านแคปชั่นของเรา จากนั้นจึงชักจูงให้เกิดคสามสนใจในผลิตภัณฑ์ จนทำให้เกิดเป็นความต้องการซื้อ และปิดท้ายด้วย Call-to-action หรือสิ่งที่อยากให้ลูกค้าดำเนินการต่อ นั่นก็คือการสั่งซื้อนั่นเอง วิธีนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการเขียนสคริปต์โฆษณาตามโทรทัศน์ หรือวิทยุ
ตัวอย่างเช่น “ด่วน! ซื้อ 1 แถม 1 จำนวนจำกัด เตาชาบูปิ้งย่างพกพา นำเข้าจากเกาหลี จะเมนูไหนก็ทำได้หมด โทรเลย 50 สายแรกเท่านั้น! ” เป็นต้น
5. เขียนแคปชั่น อธิบายให้คนคิดภาพตาม
วิธีการเขียนรูปแบบสุดท้ายที่นินจาแวนอยากจะแนะนำคือการเขียนแบบให้คนนึกภาพตามได้ วิธีการนี้จะเป็นการจำลองสถานการณ์ ที่จะทำให้ลูกค้าได้เห็นถึง Use Case หรือการใช้ประโยชน์จริง ๆ ของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ทำให้ลูกค้าถูกกระตุ้นและอยากกดสั่งซื้อได้ในทันที โดยมักจะเริ่มจากการกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจผ่านการให้คำสัญญาว่าชีวิตของลูกค้าจะดีขึ้น (Promise) จากนั้นจึงเล่าถึงสถานการณ์หนึ่ง ๆ ขึ้นมา ที่มักไม่น่าอภิรมย์ (Picture) เพื่อทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์และความดีงามของสินค้าเรา (Proof)และทำการขายในที่สุด (Pitch หรือ Push)
เช่น “ปัญหาผ้าไม่แห้งของคุณจะหมดไป ง่าย ๆ ภายใน 30 นาที เพียงใช้เครื่องอบผ้า … เท่านี้ ก็ไม่ต้องง้อแดด กลัวฝนอีกแล้ว ซื้อเลยพร้อมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว”
นี่เป็นเพียงเทคนิคการเขียนแคปชั่นขายสินค้าเบื้องต้นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์เท่านั้น จริง ๆ แล้วยังมีเทคนิคการเขียนอีกมาก สามารถลองอ่านเทคนิคเขียนคำบรรยายเสื้อผ้าหรือ Product Description ได้เลย และยังมีเรื่องราว ๆ สาระความรู้อื่น ๆ หากใครอยากได้เทคนิคการซื้อขายสินค้า การตอบแชทออนไลน์ หรือข้อมูลเบื้องลึกเพิ่มเติม ก็อย่าลืมติดตามบล็อกของนินจาแวนกันไว้ได้เลย
ส่วนพ่อค้า แม่ค้าท่านไหนที่ขายสินค้าได้แล้ว อย่าลืมเลือกให้ Ninja Van TH เป็นผู้ช่วยจัดส่งสินค้าให้ถึงมือของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย!
