ปัญหาพัสดุตกค้างเป็นปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือคนทำธุรกิจออนไลน์นั้นไม่อยากประสบพบเจอ เพราะคนที่ขายของออนไลน์ก็อยากจะส่งสินค้าให้กับลูกค้าของตนเองได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่บางครั้งก็อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด พัสดุอาจจะสูญหาย ตกหล่น หรือพัสดุตกค้าง แต่ไม่ต้องตกใจเพราะวันนี้เรามาแชร์วิธีการตามพัสดุตกค้างให้กับทุก ๆ คนกัน
พัสดุตกค้างคืออะไร?
พัสดุตกค้าง คือ การที่สินค้าหรือพัสดุที่ไม่ถูกส่งถึงผู้รับตามกำหนดเวลา หรือวันที่คาดหวังไว้ในกระบวนการส่งสินค้าหรือการจัดส่ง ซึ่งปัญหาพัสดุตกค้างนี้ถือเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ สำหรับการซื้อขายออนไลน์ หรือใช้บริการการส่งสินค้ากับบริษัทขนส่งเอกชน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น มาจากข้อผิดพลาดในกระบวนการขนส่ง ซึ่งอาจจะเป็นระบบการจัดส่งที่ผิดพลาด การจัดส่งที่ช้าเกินไป การจ่าที่อยู่ผู้รับผิด หรือมีพนักงานนำส่งพัสดุมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากมากจากสาเหตุภายนอกอื่น ๆ เช่น ไม่สามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับได้ หรือผู้รับไม่อยู่ที่บ้านในเวลาที่พนักงานจัดส่งนำส่งพัสดุ
เมื่อมีพัสดุตกค้าง ร้านค้าควรจะทำอย่างไร
1. ตรวจสอบสถานะจากเลขที่ติดตามพัสดุ (Tracking ID)
ร้านค้าสามารถตรวจสอบสถานะพัสดุได้จากเลขที่ติดตามพัสดุ ไม่ว่าจะใช้บริการของขนส่งบริษัทใด ก็จะต้องได้รับเลขนี้ เพื่อนำไปเช็กสถานะว่าตอนนี้พัสดุที่จัดส่งไปอยู่ที่ไหนแล้ว ลูกค้าของเราได้รับพัสดุแล้วหรือไม่ สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุได้ที่เว็บไซต์หรือช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ของบริษัทขนส่งที่ร้านค้าจัดส่งพัสดุด้วย
2. สอบถามไปยังลูกค้าเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อเกิดเหตุการณ์พัสดุตกค้าง ร้านค้าควรมีสอบถามลูกค้าเพื่อตรวจสอบว่าลูกค้าไม่ได้รับของจริง ๆ และเพื่อขอข้อมูลไว้สำหรับการแก้ไขปัญหาต่อไป
3. ติดต่อไปยังผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุที่ร้านค้าใช้บริการ
ติดต่อบริษัทขนส่งที่ร้านค้าใช้บริการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบสถานะพัสดุอีกครั้ง หากพบปัญหาก็จะสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยประสานงานและแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งถ้าหากร้านค้ามีข้อมูลการจัดส่งและหลักฐานอยู่ครบถ้วน ก็จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้รวดเร็วมากขึ้น
ช่องทางการติดต่อ นินจาแวน ประเทศไทย
Call Center: 1469
Facebook: Ninja Van Thailand
เว็บไซต์: https://www.ninjavan.co/th-th
วิธีป้องกันพัสดุตกค้าง
- บันทึกรายละเอียดของลูกค้า
รายละเอียดตั้งแต่ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงการบันทึกวันและเวลาที่ลูกค้าสั่งสินค้าเข้ามา ร้านค้าควรจะมีการบันทึกเอาไว้ เพื่อให้กำหนดการจัดส่งสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบและเป็นระบบ และสามารถใช้เป็นหลักฐานได้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น
- กำหนดเวลาตัดรอบจัดส่งออเดอร์วันต่อวัน
ร้านค้าออนไลน์ควรมีการกำหนดเวลาในการตัดรอบจัดส่งออเดอร์วันต่อวันให้ชัดเจน และถ้าสามารถแจ้งให้ลูกค้าทราบได้ก็ยิ่งดี เพราะนอกจากจะเป็นระเบียบในการแพ็คของจัดส่งแล้ว ลูกค้าก็จะทราบว่าเวลาตัดรอบในของแต่ละวันคือช่วงเวลากี่โมง และประมาณได้ว่าควรได้รับสินค้าที่สั่งไปภายในวันใด ทำให้ลดปัญหาการตามของกับร้านค้าภายในระยะเวลาจัดส่ง
- แยกการจัดส่งพัสดุตามประเภทการชำระค่าสินค้า
หากร้านค้าออนไลน์มีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า เช่น การชำระเงินค่าสินค้าก่อนแล้วค่อยจัดส่ง หรือมีบริการเก็บเงินปลายทางให้ด้วย ร้านค้าก็ควรแยกการจัดส่งพัสดุตามประเภทการชำระเงินให้ดี เนื่องจากถ้ามีการเก็บเงินปลายทาง ข้อกำหนดและเงื่อนไขก็จะแตกต่างไปจากการจัดส่งแบบธรรมดา ทำให้ร้านค้าอาจเกิดความสับสนได้
- ใช้คลังสินค้าออนไลน์ เก็บข้อมูล แพ็คสินค้า ส่งสินค้า
วิธีนี้จะเป็นวิธีการป้องกันปัญหาพัสดุตกหล่นที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมอย่างมากในการขายของสายออนไลน์ เว็บไซต์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสต็อกสินค้า พร้อมบริการแพ็ค รวมไปถึงการจัดส่งสินค้า ทำให้การจัดส่งสินค้ามีความถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น จึงสามารถช่วยลดการเกิดปัญหาพัสดุตกหล่นหรือตกค้างได้นั่นเอง
การที่พัสดุตกค้างถึงแม้ว่าจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร้านค้าทั้งในเรื่องความเชื่อมั่นจากลูกค้าและภาพลักษณ์ของร้านค้า แต่ถ้าหากร้านค้ามีการป้องไม่ให้เกิดปัญหา สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจน ก็จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือสามารถผ่อนปัญหาจากหนักให้เป็นเบาได้
หากร้านค้าต้องการจัดส่งพัสดุกับขนส่งที่สามารถไว้ใจได้ มีบริการเก็บเงินปลายทาง และระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ ให้ นินจาแวน เป็นผู้ช่วยจัดส่งพัสดุให้ถึงมือของลูกค้าของคุณอย่างปลอดภัย