ปัจจุบันเวียดนามเป็นตลาดที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดี แถมยังสามารถฟื้นตัวจากการระบาดโควิด – 19 ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมองหาลู่ทางที่จะนำสินค้าของตัวเองไปบุกตลาดเวียดนาม ซึ่งการส่งสินค้าไปเวียดนามนั้นมีหลายสิ่งที่ต้องรู้ก่อนจะลงมือ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
- กลุ่มเป้าหมายชาวเวียดนามเป็นใคร
- เทรนด์สินค้าที่คนเวียดนามชอบซื้อ
- ช่องทางที่ชาวเวียดนามใช้ซื้อของออนไลน์
- ช่องทางชำระเงินยอดนิยม
- พฤติกรรมก่อนซื้อสินค้าออนไลน์ของชาวเวียดนาม
- ปัจจัยที่กระตุ้นให้คนเวียดนามตัดสินใจซื้อ
- ต้องลงทะเบียนก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์
1. กลุ่มเป้าหมายชาวเวียดนามเป็นใคร
จากข้อมูลของ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ที่ได้ทำการสำรวจเทรนด์ของการซื้อของออนไลน์ชาวเวียดนาม ในเมืองใหญ่ๆ เช่น โฮจิมินท์ ฮานอย พบว่า ชาวเวียดนามที่ช่วงอายุระหว่าง 20-39 ปี ซื้อของออนไลน์เฉลี่ย 1 – 3 ชิ้นในทุกๆ สัปดาห์
2. เทรนด์สินค้าที่คนเวียดนามชอบซื้อ
จากการสำรวจของ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ได้ทำการสำรวจกระแสของประชาชนชาวเวียดนาม พบว่าโดยรวมแล้ว คนเวียดนามมีความสนใจในสินค้าใกล้เคียงกับคนไทย โดยสินค้าที่คนเวียดนามชอบซื่้อมากที่สุด มีดังต่อไปนี้
- สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม เช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยในปี 2562 ยอดขายสินค้าแฟชั่นและ ผลิตภัณฑ์เสริมความงามรวมกันมีมูลค่าถึงราว 26,000,000,000 บาท (สองหมื่นหกพันล้านบาท)
- สินค้าอิเล็กทรอกนิกส์และโทรศัพท์
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
- เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้าน
นอกจากนี้ สินค้าที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรง คือสินค้าประเภทแม่และเด็ก เนื่องจากคนเวียดนามมีแนวโน้มจะมีลูกมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสินค้าแม่และเด็กมากขึ้น เช่น ผ้าอ้อม เปลเด็ก ฯลฯ ถ้าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ชาวไทยคนไหนกำลังขายสินค้าแม่และเด็กอยากบุกตลาดเวียดนาม ตอนนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญเลย!
3. ช่องทางที่ชาวเวียดนามใช้ซื้อของออนไลน์
ชาวเวียดนามนิยมซื้อของออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ E-Commerce โดยเว็บไซต์ E-Commece ที่ชาวเวียดนามนิยมมากที่สุดคือ shoppee , Lazada, Tiki และ Sendo โดยช่องทางที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งอีกช่องทางคือ Social Media เช่น Facebook โดยประเทศเวียดนามมีประชากรประมาณ 96 ล้านคน มีบัญชี Facebook มากถึง 62 ล้านบัญชี ทำให้นินจาแวนมองว่า การโฆษณาใน Facebook มีอิทธิพลอย่างมากสำหรับชาวเวียดนาม
4. ช่องทางชำระเงินยอดนิยมของคนเวียดนาม
แม้ประเทศเวียดนามจะมีระบบชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงบัตรเครดิต แต่ด้วยความที่อัตราส่วนของวัยรุ่นเวียดนามที่มีบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิตนั้นยังน้อยอยู่ รวมถึงประเทศเวียดนามมีมิจฉาชีพระบาด ทำให้ชาวเวียดนามนิยมใช้วิธีการชำระเงินเป็นแบบเก็บเงินปลายทาง (Cash-on-delivery) เป็นหลัก มากถึง 97% เนื่องจากปลอดภัย สามารถตรวจสอบสินค้าได้ก่อนชำระเงิน และมักจะเลือกซื้อกับร้านที่มีบริการเก็บเงินปลายทางก่อน
5. พฤติกรรมก่อนซื้อสินค้าออนไลน์ของชาวเวียดนาม
ชาวเวียดนามนิยมใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า โดยปัจจัยที่ชาวเวียดนามให้ความเชื่อถือมากที่สุดคือรีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานจริง รองลงมาคือรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ และจากข้อ 3 ด้วยความที่คนเวียดนามใช้ Facebook เป็นประจำ ทำให้การยิงโฆษณาหรือการทำการตลาดบน Facebook มีอิทธิพลอย่างมากสำหรับชาวเวียดนาม
6. ปัจจัยที่กระตุ้นให้คนเวียดนามตัดสินใจซื้อ
นอกจากคนเวียดนามจะใช้โซเชียลมีเดียในการอ่านรีวิว เปรียบเทียบสินค้าแล้ว ตามการสำรวจของ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พบว่าปัจจัยที่ชาวเวียดนามใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้ามากที่สุดคือ ความน่าเชื่อถือของร้านค้า เนื่องจากประเทศเวียดนามมีปัญหามิจฉาชีพระบาด แต่เมื่อเจอร้านที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว ปัจจัยต่อไปที่กระตุ้นให้คนเวียดนามตัดสินใจซื้อสินค้า เรียงจากมากไปน้อย มีดังต่อไปนี้
- โปรโมชั่นสินค้า เช่นราคาพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 (56%)
- ความรวดเร็วในการจัดส่ง (46%)
- ความหลากหลายของสินค้า (42%)
- ความสะดวกสบาย (41%)
- นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า (25%)
- ความปลอดภัยในการชำระเงิน (เน้น COD) (19%)
- อื่นๆ (3%)
7. ต้องลงทะเบียนก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์
หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทย ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนาม ผ่านสื่อโซเชียลหรือเว็บไซต์ของตนเอง จะต้องขออนุญาตขายสินค้าออนไลน์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าที่ online.gov.vn ก่อน โดยการอนุมัติใช้เวลาราว 10 วันทำการ และไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากขายผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการขายได้เลย เพียงเลือกบริษัทขนส่งที่มีบริการส่งสินค้าไปต่างประเทศ เช่น International Delivery ของนินจาแวน ที่ช่วยดำเนินการต่างๆ ในการผ่านแดนแบบครบวงจร สามารถส่งสินค้าไปขายที่เวียดนามได้เลย!