‘ไลฟ์สด’ หนึ่งกลยุทธ์สำคัญทางการตลาดที่ร้านค้าออนไลน์เลือกใช้ เพราะปิดการขายได้ไว แถมลูกค้าก็ยังเชื่อมั่นในสินค้าของทางร้านง่ายขึ้น เพราะได้เห็นของจริง มีรีวิวการใช้งานจริงแบบเรียลไทม์ให้ดู
เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น หลาย ๆ แพลตฟอร์มก็ได้ออกฟีเจอร์ไลฟ์สดมาเอาใจพ่อค้าแม่ค้า ใช้ได้ฟรี และช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้สะดวกขึ้น แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับร้านเรา? วันนี้เลยจะพาไปดูจุดเด่นของ 4 แพลตฟอร์มที่คัดมาแล้วว่าน่าสนใจ เพราะจะไลฟ์สดทั้งทีต้องเตรียมตัวให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
1. Facebook Live
หนึ่งในแพลตฟอร์มขายของไลฟ์สดที่พ่อค้าแม่ค้าร้านออนไลน์มักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมาเป็นอันดับต้น ๆ และร้านค้าส่วนมากก็มักจะมีเพจอยู่บนหน้า Facebook ยิ่งร้านค้าที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และโพสต์ขายสินค้าบนหน้าเพจอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งทำให้มีลูกค้าประจำ การเลือกไลฟ์สดผ่านทางหน้าเพจเฟสบุ๊คก็ยิ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาดู แถมยังสามารถแชร์ไปบนหน้าโปรไฟล์หรือหน้าเพจอื่น ๆ เพื่อดึงลูกค้าที่ไม่เคยติดตามร้านให้เข้ามาชมได้อีกด้วย
จุดเด่นของ Facebook Live
- ไลฟ์ 1 ได้ถึง 2 ถ้าพ่อค้าแม่ค้าเริ่มไลฟ์บนเพจ Facebook ก็สามารถเชื่อมต่อไปยัง Instagram ได้ทันทีเพราะอยู่ภายใต้เครือเดียวกัน
- ลูกค้าสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่ทางร้านกำลังไลฟ์ได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องออกจากหน้าไลฟ์
- หลังจบไลฟ์ทางร้านสามารถโพสต์คลิปที่ไลฟ์เป็นวิดีโอย้อนหลัง เผื่อลูกค้าที่เข้ามาดูไลฟ์ไม่ทันก็สามารถติดตามชมภายหลังได้
2. TikTok Live
แพลตฟอร์มมาแรงที่ได้ใจทุกเพศทุกวัย กับฟีเจอร์ที่เน้นให้ผู้ใช้งานถ่ายเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ กระชับ เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็ว ตัดต่อ ใส่เสียงได้แบบสร้างสรรค์สุด ๆ และมีคอนเทนต์ทุกหมวดหมู่ที่น่าสนใจ การไลฟ์ขายของผ่าน TikTok ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องต่าง ๆ อยู่บ้าง เช่น ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่มีประวัติอาชญากรรม และหากจะเริ่มใช้งานฟีเจอร์ Live ได้ ก็จะต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คนก่อน ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดของร้านที่เพิ่มเริ่มเปิดและยังไม่มีฐานลูกค้ามากพอ ทำให้ไม่สามารถไลฟ์ได้
จุดเด่นของ TikTok Live
- สามารถกำหนดเวลา และโปรโมตไลฟ์เพื่อให้ผู้ชมรับการแจ้งเตือนก่อนไลฟ์เริ่มได้
- Picture in Picture ฟีเจอร์ที่สามารถย่อหน้าจอไลฟ์ให้มีขนาดเล็กลงเวลาออกจากหน้าแพลตฟอร์ม TikTok โดยไม่จำเป็นต้องปิดไลฟ์
- ผู้ใช้งานหลักสามารถกำหนดผู้ใช้งานอีกหนึ่งคนให้เป็นคนช่วยดูแลการไลฟ์ เช่น ปิด-เปิดเสียง กดบล็อก หรือกรองคอมเมนต์ เป็นต้น พ่อค้าแม่ค้าก็จะสามารถไลฟ์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
- หลังจบไลฟ์มีการวิเคราะห์ข้อมูลการไลฟ์เพื่อที่จะนำไปพัฒนาการไลฟ์ในครั้งต่อไปได้อีกด้วย
3. Shopee Live
แพลตฟอร์ม E-commerce ที่เป็นเหมือนตัวกลางของร้านค้าออนไลน์และลูกค้านักช้อป หากพ่อค้าแม่ค้าเริ่มเปิดร้านและเลือกขายผ่านทาง Shopee ก็ย่อมมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะมีระบบในการจัดการร้านค้า สต็อก รวมไปถึงการช่วยโปรโมตทางการตลาด นอกจากนี้หลาย ๆ ร้านยังนิยมไลฟ์สดผ่านทางแอปพลิเคชัน เพราะช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าในร้านได้มากขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดในการเปิดใช้งานฟีเจอร์ไลฟ์สดคือ ทางร้านจะต้องมีสินค้าอย่างน้อย 1 SKU (Stock Keeping Unit) ถึงจะมีปุ่ม Live ขึ้นมา
จุดเด่นของ Shopee Live
- สามารถตั้งเวลาไลฟ์ล่วงหน้าได้ หรือกดไลฟ์ทันทีก็ได้เช่นกัน และยังสามารถส่งแจ้งเตือนการไลฟ์ไปยังผู้ติดตามร้านค้าได้
- มีโหมดสำหรับทดลองไลฟ์ เพื่อหัดใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ก่อนการเริ่มไลฟ์จริง
- มีเครื่องมือช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางร้าน เช่น Reward coin ทำให้ยอดผู้ชมเพิ่มขึ้น Voucher แจกให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดออเดอร์ Click & Buy ช่วยให้การซื้อขายเร็วขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้การใช้ Shopee Live จะมีข้อควรระวังอยู่เล็กน้อยคือ ห้ามขายของละเมิดลิขสิทธิ์ ห้ามลูกค้าพิมพ์ ‘CF/F’ หรือ ‘จอง’ จำเป็นที่จะต้องซื้อขายผ่านถุงส้ม ที่เป็นฟีเจอร์ภายในแอปพลิเคชันเท่านั้น และห้ามชักชวนให้ทำการซื้อขายหรือจ่ายเงินนอก Shopee เด็ดขาด หากร้านค้าทำผิดกฎดังกล่าวก็จะเสี่ยงถูกระงับปุ่มไลฟ์
4. Lazada Live (LazLive)
อีกหนึ่งแพลตฟอร์ม E-commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะถือว่ามีโปรโมชันมาแจกลูกค้าผ่านทางแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ สำหรับฟีเจอร์การไลฟ์ของ Lazada ต้องบอกว่าไม่แพ้แพลตฟอร์มอื่นเลยทีเดียว ทั้งง่ายและสะดวกสบาย แต่ทางร้านค้าจำเป็นจะต้องลงทะเบียนขอใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สดและได้รับการอนุมัติจากแพลตฟอร์มก่อน
จุดเด่นของ Lazada Live
- แจกคูปองส่วนลดให้ลูกค้าโดยที่ร้านค้ายังคงได้เงินเท่าเดิมและสามารถใช้ร่วมกับคูปองอื่น ๆ ภายในร้านค้าได้
- Live Exclusive Price โปรโมชันพิเศษ โดยราคาสินค้าจะถูกลงเมื่อทำการไลฟ์ ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามากยิ่งขึ้น
- การสรุปผลและรายงานสถิติต่าง ๆ ระหว่างไลฟ์ เพื่อทำให้ร้านค้าสามารถนำไปพัฒนาไลฟ์ของตัวเองและเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
การไลฟ์สดให้ยอดขายปังนั้นนอกจากจะต้องเตรียมตัว ทำการบ้านมาให้ดีแล้ว การเลือกแพลตฟอร์มก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะแต่ละร้านมีความแตกต่างกันในเรื่องของสินค้าและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นที่ต่างกันไปคนละแบบ เช่น หากร้านไหนมีหน้าเพจเฟสบุ๊คอยู่แล้ว หรือเพิ่งเริ่มเปิดร้านใหม่ยังไม่มีผู้ติดตามมากนักก็อาจจะเหมาะกับ Facebook Live ส่วนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็มักจะเหมาะกับร้านค้าที่เปิดบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ สามารถดึงดูดลูกค้าด้วยส่วนลดต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์ม โดยที่ร้านยังคงได้ยอดขายเท่าเดิม บอกเลยว่าการไลฟ์สด อาจจะเป็นหนึ่งในช่องทางการตลาดที่พลิกยอดขายให้ทะลุเป้าให้กับหลายร้านเลยทีเดียว
