การสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองนั้นหลายเรื่องที่ต้องศึกษาหาข้อมูล ทั้งประเภทของสินค้าที่ขาย กลุ่มเป้าหมาย ต้นทุนและราคาขาย รวมถึงบริษัทขนส่งพัสดุ แต่เชื่อว่าทุกๆคนที่กำลังจะเริ่มต้นขายสินค้าในปี 2022 หรือกำลังสร้างแบรนด์ต้องเจอคำศัพท์ 3 คำนี้บ่อยอย่างแน่นอน คือ สินค้า OEM , ODM และ OBM 3 คำนี้คืออะไร หมายความว่าอย่างไร และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
OEM , ODM และ OBM คืออะไร
OEM , ODM และ OBM คือคำย่อที่ใช้แยกสินค้าตามลักษณะการผลิต ซึ่งลักษณะการผลิตแบบ OEM ODM และ OBM นี้ ก็จะมีข้อดี ข้อด้อย และเหมาะสมกับธุรกิจแตกต่างกัน
OEM คืออะไร?
OEM คือ Original Equipment Manufacturer เป็นการผลิตที่โรงงานผลิตจะทำหน้าที่ผลิตสินค้าตามสเปคและแบบที่เจ้าของแบรนด์กำหนดมาให้ โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรของโรงงาน จากนั้น บริษัทหรือเจ้าของแบรนด์จะนำสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วไปตีแบรนด์และออกวางขายต่อ
โดยโรงงานที่รับผลิตสินค้าแบบ OEM นี้ จะเป็นโรงงานที่รับผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่นๆ เป็นหลัก ไม่ใช่โรงงานที่ตั้งมาเพื่อผลิตให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งโดยเฉพาะ และมีมาตรฐานการผลิตที่ในระดับสากล
ข้อดีของการเลือกผลิตสินค้าแบบ OEM
- เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรหรีอโรงงานเอง สามารถใช้บริการโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิตได้เลย
- สามารถขอคำปรึกษาจากโรงงานได้ ถ้าคุยดีๆ อาจได้ข้อมูล Insight ด้วย เช่นความต้องการของผู้บริโภค วิธีเลือกวัสดุ ฯลฯ
- สามารถเริ่มผลิตจากจำนวนน้อยๆ ก่อนได้
ข้อเสียของการเลือกผลิตสินค้าแบบ OEM
- เนื่องจากเป็นโรงงานที่รับผลิตให้กับหลายๆ แบรนด์ ทำให้เมื่อผลิตสินค้าประเภทเดียวกันออกมาอาจมีความคล้ายคลึงกันได้
- ผลิตได้เฉพาะสินค้าที่โรงงานมีเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีอยู่แล้วเท่านั้น ไม่สามารถผลิตสินค้าที่ต้องใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องจักรเฉพาะในการผลิตได้
ODM คืออะไร?
ODM คือ Original Design Manufactuere เป็นการผลิตที่โรงงานจะทำหน้าที่คิดค้น ออกแบบ และผลิตสินค้าที่มีความแตกต่างและโดดเด่นออกมาโดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและเครื่องจักรของโรงงาน บางครั้งก็เป็นการร่วมกันคิดค้นกับเจ้าของแบรนด์ จากนั้นก็ เจ้าของแบรนด์ก็จะนำสินค้านั้นออกวางขาย
โดยการผลิตสินค้าแบบ ODM นี้ ส่วนมากจะมาจากโรงงานที่เริ่มผลิตแบบ OEM มาก่อน แล้วค่อยๆ สะสมความรู้ มีการค้นคว้า วิจัย ลองผิดลองถูก จนสามารถผลิตสินค้าที่มีความแตกต่างและโดดเด่นจากตลาดออกมาได้
ข้อดีของการเลือกผลิตสินค้าแบบ ODM
- มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ผลิตออกมาจะมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร เหมาะมากๆ สำหรับใครที่เพิ่งสร้างแบรนด์สินค้า แล้วต้องการสร้างความจดจำ
- ได้สินค้าที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นในตลาดโดยไม่ต้องออกแบบเอง
- มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาตลอดขั้นตอนการผลิต
ข้อเสียของการเลือกผลิตสินค้าแบบ ODM
- ต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากมีขั้นตอนในการค้นคว้า ทดลอง รวมถึงออกแบบ
OBM คืออะไร
OBM คือ Original Brand Manufacturer เป็นการผลิตสินค้าที่โรงงานจะใช้เครื่องจักร เทคโนโลยี และองค์ความรู้ทั้งหมดผลิตสินค้าให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งโดยเฉพาะ หรือพูดง่ายๆ คือแบรนด์ตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าของตัวเองออกมาจำหน่าย โดยแบรนด์ต้องทำหน้าที่ออกแบบ ค้นคว้า ทดลองจนถึงผลิตสินค้าจริงออกมา ทำให้ได้สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถรักษาความลับทางการผลิตได้
โดยการผลิตแบบ OBM นี้ เหมาะกับแบรนด์ที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว หรือมีเงินทุนพอที่จะลงทุนเรื่องเครื่องจักรได้ ซึ่งแบรนด์สามารถควบคุมการผลิตได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ข้อดีของการเลือกผลิตสินค้าแบบ OBM
- มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ผลิตออกมามีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำกับใครในตลาดแน่นอน
- สามารถผลิตสินค้าที่มีความซับซ้อน หรือต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางในการผลิตได้
- แบรนด์สามารถรักษาความลับทางการผลิตได้ และเป็นเจ้าขององค์ความรู้ทุกอย่างที่ค้นคว้าได้
- แบรนด์สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้
ข้อเสียของการเลือกผลิตสินค้าแบบ OBM
- ต้นทุนสูง มีทั้งต้นทุนในการตั้งโรงงาน ซื้อเครื่องจักร ต้นทุนในการค้นคว้าและวิจัย ออกแบบ
ทั้งหมดนี่ก็คือความหมายของการผลิตแบบ OEM ODM และ OBM เชื่อว่าเมื่อทุกคนรู้ความหมายและความแตกต่างของทั้งสามลักษณะแล้ว ก็น่าจะพอมองออกว่าควรเลือกผลิตสินค้าแบบไหนที่เหมาะกับแบรนด์ของเรามากที่สุด แต่ที่สำคัญไม่แพ้การเลือกโรงงานผลิตสินค้า คือการเลือกบริษัทขนส่งที่ได้มาตรฐาน ไว้ใจได้ ให้บริการครบทุกพื้นที่ในประเทศไทยอย่าง Ninja Van